งานปัก
1. รับแบบจากลูกค้า หรือนั่งออกแบบให้ลูกค้า
2. เอาแบบเข้าเครื่องสแกน
3. ทำลายปัก (ใช้เวลานานกว่าทำฟีล์มอัดบล็อค)
3. เอาลายที่ทำเสร็จไปปักตัวอย่าง หรือปรูฟให้ลูกค้าดูก่อนปักจริง ไม่งั๊นเดี๋ยวงานเข้า
4. แก้แล้วแก้อีกจนถูกใจลูกค้า ทั้งแบบ ทั้งราคา
5. เอาลายมาใส่เครื่องเตรียมปัก
6. ร้อยใหม เปลี่ยนสีใหม
7. ขึงผ้า หรือเอาผ้าใส่สะดึง
8. เอาวีราเน่รอง หรือรองกระดาษ ฯลฯ
9. เริ่มปัก ต้องคอยดูเวลาใหมขาด ด้ายล่างหมด นั่งตัดเศษได้ นั่งตัดวีราแน่ไว้รอ รอบต่อ ๆ ไป
10. ปักเสร็จ 1 รอบเอางานออกมานั่งตัดเศษได้ หรือตัดผ้า ตัดขอบ จี้ขอบ แล้วแต่แแบของงานปัก
11. รอบต่อไปทำตั้งแต่ข้อที่ 7-9 อีกครั้งกว่าจะครบจำนวน
12. เสร็จงานแล้วก็ต้องเก็บกวาด หยอดน้ำมัน ฯลฯ
เครื่องปักต้องตั้งในห้องแอร์ไม่งั๊นอายุสั้น ค่าไฟแพง, ค่าเครื่องแพง, ค่าโปรแกรมทำบล็อคแพง (ไม่ได้ใช้ของเถื่อน), ค่าบำรุงรักษาแพง, ค่าใหมแพง, วีราแน่ขึ้น ๆ ๆ ลูกค้ากดราคา, ลูกน้องหายาก ทำคนเดียวทุกอย่างไม่ได้ ได้เงินไม่เท่าไรครับ ปวดหัว
สกรีน พัดลมเอาอยู่, ค่าไฟจากเครื่องอัดบล็อค, ค่าไฟจากไดร์เป่าผม, ผ้าสกรีนเอามาล้างใช้ซ้ำได้, ค่าสีไม่แพง, บางงานใช้ตีแป้งผสมแม่สีเอาได้, ทำคนเดียวทุกขั้นตอนได้ ใช้พื้นที่น้อยกว่า การบำรุงรักษาต่ำกว่า ไม่ต้องจ้างช่าง หรือใช้ช่างผู้ชำนาญการเหมือนงานปัก ที่เรียกค่าซ่อมเรือนพันเรือนหมื่น
ถ้าทำบล็อคไม่ผิดแบบ พิมพ์สวยก็จบ ส่วนงานปักบางทีเข็มหนาไป, บางไป, ใหมหลุดมาเส้นลูกค้าไม่เอา, ปักงานช้าลูกค้าไม่เอา, ตีบล็อคไม่สวยลูกค้าไม่เอา, บล๊อกปักไม่เหมือนกับบล็อกสกรีน ซาตินเล็กมากเครื่องทำไม่ได้ ตัวหนังสือเล็กมากทำไม่ได้ ลูกค้าชอบบ่นว่าตัวหนังสือเล็ก ๆ ไม่ชัด เพราะมันไม่ใช่งานสกรีน, บางทีเก็บค่าบล็อคไม่ได้อีก เพราะลูกค้าไม่เข้าใจ ไม่จ่ายจะจ่ายแต่ค่าปักอย่างเดียว โรงงานก็เจอเครดิตค่าปักอีก 2-3 เดือน ลูกค้าทุกวันนี้วิ่งเทียบราคาก่อนปักงาน กว่าจะได้แต่ละชิ้น หืดขึ้นคอ
ทุกวันนี้ลูกน้องผมเปิดหน้าร้านอยู่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่า ค่าไหม ค่าวีราเน่ ค่ากาวรีด ค่าใช้จ่ายจิปาถะ รายได้เข้ามาจ่ายหมดไม่มีค่าตัวของตัวเอง มันทุกข์นั่งร้องไห้จนจะออกจากวงการขายจักรทิ้งแล้วครับ.
