ThaiEMB.com สังคมแห่งมิตรภาพ และการแบ่งปัน

หมวดหมู่ทั่วไป => ห้องรับแขก => ข้อความที่เริ่มโดย: The Cat ที่ วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2556, 20:28:15



หัวข้อ: การแสวงหาความหมายที่แท้จริงแห่งชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: The Cat ที่ วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2556, 20:28:15
http://www.youtube.com/watch?v=_DXNYDhZNKs
การแสวงหาความหมายที่แท้จริงแห่งชีวิต
-------------------------------
ศ ดร. ฏอรีก รอมฎอน

Albert Jakai นักพันธุศาสตร์ได้กล่าวอะไรบางอย่าง
ที่ค่อนข้างน่าสนใจว่า : "เมื่อคุณเกิดมา คุณไม่ได้เกิดแล้วสมบูรณ์ทันที
คุณยังคงต้องการพ่อแม่ของคุณ"

แน่นอน ตามหลักกายภาพแล้วคุณมีความต้องการ
และนี่คือจุดเริ่มต้นของการดำเนินชีวิตของเรา

และเมื่อเราไม่ใส่ใจในคำถามถึงการดำรงอยู่
แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ร่างกายเป็นอิสระ และเป็นอิสระทางกายภาพ
ความคิดในสมองของเราเริ่มที่จะตั้งคำถาม:
“ทำไม? ทำไมเราจึงมีตัวตนอยู่ที่นี่?”

ดังนั้น ตอนนี้เรามีมิติของความต้องการอีกด้านหนึ่ง นั่นคือเราต้องการคำตอบ
ดังนั้น เมื่อเราไม่ได้สมบูรณ์ โอเคละไม่เป็นไร เรายังดำเนินชีวิตต่อไปได้
เมื่อเรามีความรู้มากพอ และเราเริ่มที่จะค้นพบจิตใจของเราว่า
เราต้องการคำตอบ ..

ดังนั้นโดยนิยามแล้วมนุษย์มีความต้องการ
มีความต้องการบางสิ่งบางอย่างเสมอ มันอาจจะเป็นทางกายภาพ
และมันอาจจะเป็นทางสติปัญญา หรือทางจิตวิญญาณ
เราต้องตอบคำถามของเราว่า 'ทำไม' ...

[จุดมุ่งหมายของชีวิต]

และนี่คือเหตุผลว่าทำไม Mircea Eliade
กล่าวในหนังสือของเขาเรื่องประวัติศาสตร์ศาสนาว่า:

“'คำถาม' และ 'การแสวงหา' ทางศาสนานั้น
เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างทางปัญญาของมนุษย์"

คุณมีสิ่งนี้ในตนเอง คุณต้องการคำตอบให้กับคำถามนี้
ความสงบจะไม่มีทางเกิดขึ้นหากคุณไม่ได้คำตอบ

และการไม่ตอบคำถามนั้น นั่นก็คือคำตอบ
เพราะหากคุณหลีกเลี่ยงคำถามตามที่ Pascal กล่าวว่า
คุณหันเห หรือเบี่ยงเบนความความคิดของคุณ
จากการคิดถึงความตายของคุณ

เพราะปัญหาคือ วันหนึ่งคุณจะต้องตาย นี่คือความจริง

และคุณจะต้องเผชิญหน้ากับคำถามว่าทำไม ?
ดังนั้นคุณสามารถหลีกเลี่ยงมันได้
โดยการเบี่ยงเบนความคิดความสนใจจากประเด็นนี้
แต่ในท้ายที่สุดแล้วคำถามนี้จะกลับมา ...

[วันสุดท้ายของชีวิต]

มันเป็นคำถามที่สำคัญมากสำหรับพวกเรา ณ วันนี้
คือ ความหมายที่แท้จริงของอิสลาม

ดังนั้นมันจะมีหัวข้อซึ่งเราไม่เห็นด้วย หรือ เห็นด้วยเพียงผิวเผิน ว่า: การมีอิสรภาพคือทำอะไรก็ตามที่คุณต้องการ

แต่ผมมีคำถามหนึ่ง ในยุคของการสื่อสาร ความกดดันที่เกิดขึ้นในใจของคุณ

ในขณะที่สื่อสาธารณะ พวกเขากำลังเล่นสงครามจิตวิทยา
คุณทราบหรือไม่ว่าภาพยนตร์ที่มีอยู่ในฮอลลีวูดและบอลลีวูดนั้นถูกสร้างขึ้นมาด้วยความช่วยเหลือของนักจิตวิทยา

พวกเขารู้ดีว่าอะไรที่จะทำให้พวกคุณร้องให้
อะไรที่จะทำให้พวกคุณรู้สึกดีหรือไม่ดี

แม้กระทั่งเมื่อคุณไปซุปเปอร์มาร์เก็ต คุณเข้าไปในนั้น
โดยคิดว่าคุณมีอิสระที่จะเลือกอะไรก็ตามที่คุณต้องการ
และมันก็จะมีดนตรีอยู่ในนั้น คุณจะคิดว่า “อืมม ดี” “ใช่ มันดีมาก”

พวกเขารู้ดีว่าจะช่วยคุณให้ซื้อของได้อย่างไร
และคุณก็จะรู้สึกดี คุณก็จะซื้อแล้วก็รู้สึกดี และคุณรู้สึกว่ามีอิสระ

ถามตัวคุณเองในคำถามที่ลึกซึ้งนี้ว่าคุณได้รับอิสรภาพนี้ได้อย่างไร?

คุณรู้ได้อย่างไร ว่าคุณต้องการในสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ ?

คุณรู้ได้อย่างไร ว่าคุณชอบในสิ่งที่คุณชอบจริงๆ?
และอีกครั้งหนึ่ง ผมกำลังย้ำสิ่งนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก :

มันมีความขัดแย้งระหว่างอิสรภาพและความเขลา
เพราะความเขลาโดยตัวเองแล้วเป็นคุก

เมื่อคุณฟังนักเปียโนและเมื่อเขาเล่นเพลงสดๆ
โดยไม่มีการเตรียมมาก่อนและคุณก็คิดว่า “ว้าว เขาดูเป็นอิสระจริงๆ”

ในความเป็นจริงแล้ว เบื้องหลังอิสรภาพนี้ ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเพื่อสร้างความชำนาญเทคนิคต่างๆ ในการเล่นเพลง

เขาสามารถแต่งทำนองขึ้นมาใหม่ โดยการการเล่นสดๆ
ซึ่งเขาหรือเธอดูเหมือนว่าไม่มีเทคนิคเพราะเขาหรือเธอ
เชี่ยวชาญเทคนิคนั้นไปแล้ว ..

ดังนั้น มันมีการฝึกฝนเพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งอิสรภาพ
จิตวิญญาณมันเกี่ยวข้องกับสิ่งนี้ มันมีเพื่อที่จะเชี่ยวชาญในเรื่องหัวใจของคุณ เชี่ยวชาญในชีวิตความเป็นอยู่เพื่อที่จะได้มาซึ่งอิสรภาพ

แม้กระทั่งนักจิตวิทยาร่วมสมัยมีหนังสือที่ขายดี
ความฉลาดทางอารมณ์(อีคิว) ได้กล่าวว่า
“จงควบคุมอารมณ์ของท่านเอง หากไม่เช่นนั้น
ท่านจะตกหลุมพรางอารมณ์ของท่านเอง”

ดังนั้นนี่คือสิ่งที่คุณได้มาด้วยการฝึกฝน
และนี่เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเราทุกคน

นักปรัชญาทุกคนและนักคิดในเรื่องจิตวิญญาณทุกคน
กำลังบอกเรา “คุณจะยังไม่มีอิสรภาพ หากว่าคุณยังไม่รู้ว่าการมีวินัยคืออะไร”

เมื่อครั้งที่ผมอยู่กับท่าน ดาไล ลามะ ในเวลาตีสี่ ตอนเช้า
เขาเอาแต่สวด แล้วก็สวด เคร่งครัดในการฝึกฝนมาก ๆ
และผมก็ถามท่านว่า “ทำไมท่านถึงทำอย่างนี้”

การมาจากวิถีของอิสลามทำให้ผมทราบว่าเรามีบางสิ่งที่สอนเราว่า

การละหมาดนั้นดียิ่งกว่าการนอน ตื่นขึ้น ตื่นซิ และละหมาด
นี่คือหนทางทีจะทำให้คุณมีอิสระจากตัวเอง

แล้วท่านก็ได้กล่าวกับผมว่า
“คุณรู้มั้ย นี่คือทางที่ทำให้ผมปลดปล่อยตนเองจากอีโก้ของผม”

มันสอนผมว่า
“ผมตื่นขึ้นมาด้วยวินัยเพื่อที่จะปลดปล่อยตัวเองจากอีโก้ของผมเพราะหากปราศจากวินัยแล้ว อีโก้ของผมเองจะเป็นคุกแรกสำหรับผม”

อะไรคือความหมายในคำตอบของคุณจากคำถามนี้ ..?
อันที่จริง ด้วยการตอบคำถาม

คุณกำลังพยายามที่จะตอบสนองความต้องการของคุณ
เพื่อที่จะได้รับความสงบสันติในใจ

และในวันสุดท้าย การเดินทางตลอดชีวิตของเรา
ก็เพื่อที่จะได้รับความสงบนั้น

“ผมมีคำถาม และผมก็รู้คำตอบ”


หัวข้อ: Re: การแสวงหาความหมายที่แท้จริงแห่งชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: kochai ที่ วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2556, 20:42:13
ชอบครับ the cat

“จงควบคุมอารมณ์ของท่านเอง หากไม่เช่นนั้น
ท่านจะตกหลุมพรางอารมณ์ของท่านเอง”

ดังนั้นนี่คือสิ่งที่คุณได้มาด้วยการฝึกฝน
และนี่เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเราทุกคน

นักปรัชญาทุกคนและนักคิดในเรื่องจิตวิญญาณทุกคน
กำลังบอกเรา “คุณจะยังไม่มีอิสรภาพ หากว่าคุณยังไม่รู้ว่าการมีวินัยคืออะไร”

เมื่อครั้งที่ผมอยู่กับท่าน ดาไล ลามะ ในเวลาตีสี่ ตอนเช้า
เขาเอาแต่สวด แล้วก็สวด เคร่งครัดในการฝึกฝนมาก ๆ
และผมก็ถามท่านว่า “ทำไมท่านถึงทำอย่างนี้”

การมาจากวิถีของอิสลามทำให้ผมทราบว่าเรามีบางสิ่งที่สอนเราว่า

การละหมาดนั้นดียิ่งกว่าการนอน ตื่นขึ้น ตื่นซิ และละหมาด
นี่คือหนทางทีจะทำให้คุณมีอิสระจากตัวเอง

แล้วท่านก็ได้กล่าวกับผมว่า
“คุณรู้มั้ย นี่คือทางที่ทำให้ผมปลดปล่อยตนเองจากอีโก้ของผม”


หัวข้อ: Re: การแสวงหาความหมายที่แท้จริงแห่งชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: The Cat ที่ วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2556, 21:04:38
ท่านใดที่เชียวชาญภาษาอังกฤษ ชมแล้วฝากคอมเม้นด้วยนะครับ เพื่อทีมงานผมจะได้ปรับปรุง
ขอบคุณมากๆครับ :)