ThaiEMB.com สังคมแห่งมิตรภาพ และการแบ่งปัน
วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 18:35:45 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เว็บบอร์ด   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
collapse
กฏ-กติกา : ห้ามจำหน่าย, จ่ายแจก ซอฟแวร์ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ในเว็บบอร์ด Thaiemb แห่งนี้โดยเด็ดขาด
ไม่ว่าจะเป็นทางหน้าบอร์ด หรือหลังไมค์(PM) หากพบเห็นท่านจะถูกแบน User ถาวร.!!!
หากท่านถูกในในผลงาน หรืออยากสนับสนุนให้ผู้สร้างสรรค์ผลงานมีกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงาน
โปรดช่วยบริจาคให้ผู้จัดทำบ้างตามกำลังนะครับ.!!!  062

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: 17 เหตุผลที่คนยุคใหม่ทำธุรกิจไม่รุ่ง  (อ่าน 2200 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
iPop
Extras Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 110
สมาชิก Nº: 16

คำขอบคุณ
-ได้ให้: 622
-ได้รับ: 751


« เมื่อ: วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2559, 17:15:04 »

17 เหตุผลที่คนยุคใหม่ทำธุรกิจไม่รุ่ง:-

     สมัยนี้คนส่วนใหญ่หรือนักศึกษาจบใหม่เริ่มมีความคิดที่ไม่อยากจะทำประจำกันหมด อยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองกันทุกคน แต่บางคนก็ไม่มีความรู้มากพอ บางคนไม่มีเงินทุน แต่บางคนก็เริ่มธุรกิจของตัวเองได้ แต่ว่าทำไปทำมากลับล้มเหลว วันนี้เราเลยนำเสนอ 17 เหตุผลที่ควรรู้ว่าทำไมถึงทำไมธุรกิจไม่รุ่ง

1. ไม่มีที่ปรึกษาที่ดีการหาที่ปรึกษาที่ดีไม่ใช่การปรึกษาเพื่อนร่วมงานหรือมนุษย์เงินเดือนด้วยกัน เพราะเราก็จะได้แต่ทัศนคติและมุมมองเดิมๆ ส่วนใหญ่ที่คนทำธุรกิจแล้วล้มเหลว เพราะเลือกที่จะปรึกษาคนระดับเดียวกันที่ยังไม่เคยทำธุรกิจ เลยทำให้นอกจากจะขาดแนวทางที่ดี ยังขาดการเข้าใจปัญหาที่ถูกต้องอีกด้วย

2. เลือกคนผิดหลายคนตัดสินใจทำธุรกิจครั้งแรกด้วยความไม่มั่นใจ เลยดึงเอาคนอื่นมาร่วมกันทำธุรกิจเพื่อเป็นหุ้นส่วน ประเด็นคือการหาหุ้นส่วนไม่ใช่เรื่องผิด แต่ที่ทำให้ล้มเหลวจริงๆ ก็คือการตกลงผลประโยชน์กันไม่ได้ บางคนหุ้นส่วนทิ้งงาน ทะเลาะกับลูกค้า มีความคิดเห็นขัดแย้งกันเองเป็นต้น เหมือนดั่งคบคนพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตพาไปหาผล

3. ใช้เงินคนอื่นลงทุนตรงนี้ขัดแย้งกับความเชื่ออันเดิมของผมเป็นอย่างมาก หนังสือการเงินส่วนใหญ่สอนให้ใช้เงินคนอื่น แต่นี่คือสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้ธุรกิจเราล้มเหลว เพราะการเอาเงินคนอื่นมาลงทุน จะทำให้เรามองไม่เห็นคุณค่าของเงิน ไม่รู้ว่าสิ่งที่เอามาลงทุนนั้นมีมูลค่าขนาดไหน คล้ายๆกับพ่อแม่ซื้อโทรศัพท์มือถือ iPhone ให้ กับเราเก็บตังค์เพื่อซื้อโทรศัพท์ iPhone เอง ความรัก ความภูมิใจ การถนอมธุรกิจมันแตกต่างกัน

4. อายที่จะเป็นนักขายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ คนที่เริ่มทำธุรกิจครั้งแรกหลายคนไม่กล้าที่จะเป็นนักขาย บริษัทใหญ่จะเจริญเติบโตและมีรายได้ ได้อย่างไรถ้าไม่มีระบบการขายที่ดี ธุรกิจเล็กๆ จะรอดได้อย่างไร ถ้าการขายเป็นสิ่งที่ถูกละเลย ดังนั้นทักษะด้านการขายถือว่าสำคัญสุดๆ

5. ซ้ำจนเกร่อรู้ไหมครับว่าคนทำธุรกิจส่วนใหญ่แล้วล้มเหลวนั้น ส่วนใหญ่นั้นมาจากธุรกิจอะไร ธุรกิจส่วนใหญ่ที่ทำแล้วล้มเหลวเป็นจำนานมากนั้นมาจากธุรกิจขายกาแฟนั่นเอง โชคดีในยุคนี้คือกาแฟกลายเป็นของทานเล่นที่คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนใช้กินกัน ร้านกาแฟไม่ใช่ไม่ดี แต่ถ้าหาจุดที่ไม่ซ้ำคนอื่นไม่ได้ โอกาสรอดก็ยาก

6. คิดว่าเงินธุรกิจคือเงินตัวเองข้อนี้เป็นเรื่องที่ประหลาดใจมากๆ เพราะคนทำธุรกิจส่วนใหญ่ที่ประสบความล้มเหลวมักจะบอกว่า ทำแล้วไม่มีกำไร พอผมถามถึงเรื่องต้นทุนกับการขายปรากฏว่ามีกำไรแน่ๆ และพอได้พูดคุยสอบถามกันไปสอบถามกันมา กำไรของธุรกิจ ถูกเอามาใช้กับเรื่องส่วนตัวหมด เลยทำให้กำไรเป็นขาดทุนทันที

7. หาลูกน้องดีๆ ไม่ได้ข้อนี้สำคัญเลยทีเดียว ใครก็ตามที่เปิดร้านแล้วต้องมีคนเฝ้าร้าน ดูแลร้าน น่าประหลาดที่การหาลูกน้องเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ในยุคนี้ หลายๆร้านเจ้าของต้องลงไปทำเอง ซึ่งกำไรที่ได้ไม่คุ้มค่าตัวตัวเองแน่ๆ เลยทำให้ต้องต้องตัดสินใจปิดร้านไปโดยปริยาย บางคนได้ลูกน้อง แต่เอาลูกน้องมาดูปุ๊บยอดตก เพราะได้ลูกน้องค่าแรงถูก แต่บุคลิกหรือการพูดกับลูกค้าไม่ได้เลย บางคนหนักหน่อย โดนขโมย

8. อีโก้แรงการเป็นมนุษย์เงินเดือนคุณจะง้อหรือไม่ง้อลูกค้าก็ได้ เพราะว่าบริษัทคือส่วนเสียหาย ไม่ใช่พนักงาน แต่การทำธุรกิจนั้นจำเป็นที่ต้องง้อลูกค้าอย่างมหาศาล ตราบใดที่รายได้ยังไม่สะพัด เพราะกำไรของธุรกิจส่วนใหญ่จะเกิดจากการซื้อซ้ำนั่นเอง

 
9. ขาดความมั่นใจดื้อๆเวลาที่ลงทุนทำอะไรแล้วไม่เป็นไปอย่างที่คิด สิ่งแรกสุดที่เราต้องทำก็คือ หาสาเหตุให้ได้ก่อนว่าเพราะอะไรทุกอย่างถึงไม่เป็นไปตามความคิด แต่คนส่วนใหญ่ที่ล้มเหลว พอเจออุปสรรคที่นอกเหนือจากที่วางแผนเอาไว้ ก็ท้อใจ และขาดความมั่นใจเอาดื้อๆ ทำให้หลายๆ ครั้งปัญหาเล็กๆ กลายเป็นสวิตช์ปิดตายความสำเร็จไปเลย

10. เจอเรื่องไม่คาดฝันม็อบปิดถนน คู่แข่งมาเปิดแข่ง หุ้นส่วนทะเลาะกันแล้วขอแยกยกเลิกการเป็นหุ้นส่วนกัน ลูกน้องทิ้งร้านไม่ดูแล ลูกค้าไม่พอใจแล้วโวยวาย เป็นต้น สาเหตุเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ล้วนได้ชื่อว่า เหตุการณ์ไม่คาดฝันทั้งนั้น ทำให้จำใจต้องล้มเลิกไปโดยปริยาย

11. ศรัทธา Passive Income มากจนเกินไปจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเจ้าของไม่ลงมาทำเอง หนังสือต่างๆ มากมายรวมไปถึงนักพูดส่วนใหญ่เอา Passive Income เอามาใช้อย่างสวยหรู แน่นอน หลักประกันของ Passive Income มีสองอย่าง คือหนึ่งระบบคุณต้องแข็งแรงมาก และสอง ลูกน้องหรือผู้ร่วมธุรกิจของคุณ นั้นจะต้องรักคุณมากๆ จนไม่กล้าทำให้คุณผิดหวัง ส่วนใหญ่ไม่มีทั้งสองทาง เลยติดกับดักของ Passive Income

12. ไม่มีเวลามีลูก พ่อแม่ป่วย ย้ายบ้าน ย้ายที่ทำงาน การไม่มีเวลาดูแลธุรกิจเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ที่จะทำธุรกิจเติบโตไปได้ เพราะการที่เราจะประสบความสำเร็จอะไรสักหนึ่งธุรกิจนั้นได้ จะได้ใช้เวลา ศึกษา ใช้เวลาลงมือทำอย่างจริงจัง เพราะหากเราไม่มีเวลาให้กับธุรกิจที่เราจะทำขอแนะนำว่าอยู่เฉยๆจะดีกว่า เพราะคำว่าไม่มีเวลา

13. ดูถูกธุรกิจตัวเองทัศนคติเป็นเรื่องชี้เป็นชี้ตายสำหรับธุรกิจเลยทีเดียวก็ว่าได้ หลายๆคนมักจะดูถูกสิ่งที่ตัวเองทำ บางคนเรียนสูง เปิดร้านกาแฟแต่ไม่ยอมลงมาทำเอง ไม่มาดูแลลูกค้า ศึกษาความต้องการของลูกค้า เพราะเขารู้สึกว่ามันไม่สมศํกดิ์ศรีการเรียนของเขา ความจริงคืออะไรที่หาเงินได้แล้วถูกกฎหมาย ถูกศีลธรรม มันไม่มีคำว่าเสียศักดิ์ศรี

14. ลงทุนไม่รู้จักจบจักสิ้นการเป็นคนชอบความสมบูรณ์แบบเป็นสิ่งดี แต่หลายๆครั้ง เงินทุนและกำไรทั้งหมดเอาไปลงทุนเพื่อความสมบูรณ์แบบ ทำให้ต้นทุนของธุรกิจสูงจนน่าใจหาย สุดท้ายได้กำไรมาเท่าไหร่ ต้องหมุนเป็นเงินลงทุนหรือไม่ก็ดอกเบี้ยธนาคารทั้งสิ้น

15. คิดว่าการเริ่มต้นคือความสำเร็จหากคิดว่าความสำเร็จคือการเริ่มต้น นั่นเป็นความคิดที่น่ากลัวมาก หลายคนมักจะรู้สึกว่าตัวเองนั้น ประสบความสำเร็จแล้วหลังจากตัดสินใจลงมือทำธุรกิจ แต่แท้จริงแล้วคนที่เขาประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงทุกคน จะสอนหรือแนะนำเหมือนกันหมด ว่าการเริ่มต้นยากและเหนื่อยที่สุด ดังนั้นคุณต้องทำใจการเริ่มต้นคือการเริ่มเหนื่อย มันยังไม่ใช่ความสำเร็จ

16. ทุกอย่างเป็นความผิดของคนอื่นการเมือง เศรษฐกิจ เพื่อนร่วมงาน หุ้นส่วน พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนฝูงมิตรสหาย และเลวร้ายที่สุด คู่แข่ง และที่เลวร้ายที่สุด โทษ “ลูกค้า” การโทษคนอื่นเป็นการง่ายที่จะทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ผิด แต่คนที่ประสบความสำเร็จและร่ำรวยล้วนเป็นคนที่โทษตัวเองเป็นอันดับแรกทั้งสิ้น ข้อดีของการโทษตัวเองคือมันจะได้รู้จุดที่ปรับเปลี่ยนตัวเองทัน แล้วเอาไปใช้เพื่อหาเงินหาทองครับ

17. หมดแรงก่อนถึงเป้าหมายอันนี้เป็นเหตุผลที่ไม่สมเหตุสมผลที่สุด ความขี้เกียจ ท้อแท้ หมดแรงเป็นศัตรูตัวร้ายอยู่ทุกวงการอยู่แล้ว หลายๆ คนทำธุรกิจด้วยความอยากทำ พอทำแล้วก็เกิดความขี้เกียจแล้วพาลไม่อยากทำ ถ้าคุณรักในสิ่งที่คุณทำ คุณจะไม่มีวันขี้เกียจ เหตุผลเดียวที่คุณยังคงขี้เกียจ แสดงว่าคุณยังไม่มีเป้าหมายชีวิตที่อยากไปให้ถึงนั่นเอง คนที่มีชีวิตที่ดีคือคนที่สู้แล้วไม่ยอมแพ้ คุณคือนักสู้หรือเปล่า ถ้าใช่ ขอให้จดจำ 17 ข้อนี้ให้ดี แล้วชีวิตคุณจะพบเจอจุดเริ่มต้นแห่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าเดิม
   
  และนี่ก็คือเหตุผลทั้งหมดว่าทำไมคนส่วนใหญ่ถึงได้ทำธุรกิจแล้วล้มเหลวกันทั้งนั้น เพราะขาดเป้าหมาย ความอดทน ไม่มีเวลา และที่สำคัญขาดความรู้ ฉะนั้นก่อนจะเริ่มทำธุรกิจขอให้คิดดีๆก่อนว่าเรารักมันจริงๆ มีความรู้มากพอ หากคิดว่าพร้อมแล้วก็ลุยเลย
บันทึกการเข้า
 
konkayup
Extras Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 216
สมาชิก Nº: 17

คำขอบคุณ
-ได้ให้: 1033
-ได้รับ: 1231


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2559, 20:12:46 »

มี 4 ข้อที่เจ้าของธุรกิจ ถ้าปฎิบัติแล้วจะประสพความสําเร็จ Wink
1 ทํางานอย่าโดนแดด น่ากลัว
2 หาของอร่อยกิน 050
3 บัญชีไม่ต้องทํา Undecided
4 กลับบ้านดึกๆ 020
บันทึกการเข้า
realmadrid_c2
Hero Member
*****

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1206
สมาชิก Nº: 703

คำขอบคุณ
-ได้ให้: 1937
-ได้รับ: 1526


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2559, 21:05:26 »

1.(ที่ปรึกษา)ผมมีเยอะเลย โชคดีเป็นคนช่างสงสัยและช่างตั้งคำถาม
2.(ทีม)ไม่แน่ใจว่าเลือกถูกมั้ย แต่ถ้าเป็นทีมผมแล้ว มั่นใจว่าเขาจะสบายใจ และผมก็แนะนำเค้าดี มอบอิสระให้แก่เค้า
3.(เงินคนอื่น)ไม่เห็นด้วยอย่างแรง คนจะเห็นคุณค่า ไม่ใช่แค่หลักการแค่นี้แน่ๆ
4.(การขาย)การขายยอมรับว่าแรกๆกลัวมาก หลังๆมา อย่าได้คุยกับผมเชียว แทบปิดจ็อบทุกราย แต่ก็ว่าแหละ สกิลนี้ผมต่ำมาก ต้องเรียนรู้อีกเยอะครับ เพราะจุดนี้ผมไม่มีความรู้อะไรเลย
5.(ธุรกิจกาแฟ)ผมมองว่าเป็นธุรกิจแฟชั่น อาจได้เงิน แต่คิดว่า ธุรกิจอื่นได้เงินมากกว่า
6.(เงินส่วนตัวกับธุรกิจ)อันนี้เห็นด้วย ต้องแยกจากกัน แต่ผมก็ไม่เคยแยกนะ ไม่ค่อยรู้หรอกที่มาที่ไป มันยังไง เหอะๆ
7.(พนักงาน)ผมมั่นใจในการ ค่อยๆเทรนนิ่งของผม การใช้วาจา และเข้าคลุกคลีเหมือนเพื่อน ให้เกียรติศรัทธาเค้า ผมมั่นใจว่าผมมีทีมที่ดี
8.(ง้อลูกค้า)ถูกแล้วครับแข็งมา ลูกค้าก็หาย...
9.(กำลังใจ)บางทีผมก็ท้อนะ แต่ไม่นาน ผมก็จะลุกขึ้นมา ระหว่างทุกข์ ผมก็จะนิ่งเฉย ค่อยๆคิดหาวิธี จนตอนนี้ผมรู้แล้วล่ะว่า ไม่มีทางไหนเลยที่มันจะไม่มีทางออก...
10.(เหตุการณ์ไม่คาดฝัน)ก็ต้องเตรียมตัวให้ดีๆครับ ส่วนผมไม่กลัวต่ออุปสรรคใดๆแน่ๆ มีแต่จะก้าวต่อ!!
11.Passive income)ผมก็เชื่ออยู่นะ บางทีผมก็ทำมันได้ แต่ผมคงไม่ทิ้งงานมันดื้อๆหรอก เพราะผมรักงาน สั่งงาน แนะนำทางนิดหน่อย งานก็เดินได้ดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องทิ้งงานไป 5ปี 10ปีนะ เพราะผมคงเฉาตายแน่เลย
12.(เวลา)โชคดีที่ผมตื่นมาเดินลงบันไดก็ เจอทีมงานทำงานรอแล้ว
13.(ดูถูกงานตัวเอง)โชคดีที่ผมรักมัน และไม่เคยมีในหัวเลย
14.(ลงทุนไม่หยุด)ไม่รู้สิ ทุกวันนี้ผมยังไม่มีรถยนต์ หรือบ้านเลย แต่ผมก็ไม่อยากได้มันหรอก เปรียบระหว่าง BMW กับ Tajima 20หัว ตอนนี้ผมเอา ทาจิม่า นะเออ
15.(ความสำเร็จ)มันเหมือนหนังสือแหละครับ หนังสือยังมีเป็นบทๆๆ มันไป อยากเรียนรู้บทไหนก็เปิดหน้านั้น ไม่มีบทความสำเร็จนะ แล้วแต่คนจะมอง
16.(โทษคนอื่น)ถ้าเอาแต่โทษคนอื่น คำเดียว Say bye
17.(หมดแรง)โชคดีที่ผมรักงานผมมาก และไม่เคยลองงานอื่นด้วย ไม่รู้จะรักแบบนี้มั้ย ที่แน่ๆผมไม่สำเร็จจะไม่ล้มเลิกและก็มีเป้าหมายระยะสั้น-ยาวไว้แล้ว งานของผม เปรียบเหมือนการเล่นเกมส์ ทำงานหนักไม่ใช่ทำงานครับ แต่ผมกำลังเล่นเกมส์อยู่ กำลังสนุกทำสิ่งที่ตัวเองรัก เพราะผมชอบเล่นเกมส์ ^^"

ปล.ความเห็นส่วนตัวนะครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมคิดว่า ถ้าเทียบความสามารถกับคนในบอร์ดนี้ ผมยังด้อยกว่าหลายๆคนเลยครับ  065 065
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2559, 21:09:50 โดย realmadrid_c2 » บันทึกการเข้า

คุณไม่สามารถดูข้อความนี้.กรุณา ลงทะเบียน หรือ เข้าสู่ระบบ
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.16 | SMF © 2011, Simple Machines
SimplePortal 2.3.7 © 2008-2024, SimplePortal

SMFAds for Free Forums

Clear Mind Theme, by StathisG
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.049 วินาที กับ 27 คำสั่ง