ThaiEMB.com สังคมแห่งมิตรภาพ และการแบ่งปัน

เรียนจบอะไรถึงจะเป็นช่างซ่อมจักรได้....? เรียนจบอะไรถึงจะทำลายปักแบบปักเก่ง

ผู้ใช้จักรทั้งเก่า และ ใหม่ อาจเคยเกิดการตั้งคถามนี้ในใจตัวเอง

ผมจะบอกว่า การซ่อมจักรปัก การทำแบบปัก ไม่มีสอนในหลักสูตรการศึกษาของไทยในทุกๆสถาบันครับ (ถ้าใครเห็นว่าที่โรงเรียนไหนมีสอนมาบอกผมทีผมจะได้รู้ว่ามีสอน)

ดังนั้นคนที่ซ่อมจักรเป็น คนที่ทำแบบปักเป็น จะเป็นคนเรียนจบอะไรมาก็ได้ ไม่เรียนจบอะไรมาก็ทำได้ถ้าไผ่เรียนรู้และพยายาม ส่วนองค์ประกอบด้านการศึกษาต่างๆที่มีมาจะเป็นองคืประกอบหนึ่งที่ทำให้สามารถเรียนรู้การซ่อมจักร หรือการทำแบบปักได้เป้นเร็วขึ้น เก่งขึ้นเท่านั้น

ช่างซ่อมจักรปักที่เก่งๆหลายๆคนจบ ม.3 ม.6 ปวช.พานิชย์ หรือ ป.4 ยังมี  คนทำแบบปักก็เช่นกัน

เพราะเรื่องเหล่านี้ไม่มีสอนในสารบบการศึกษา การที่จะเรีเรียนรู้สิ่งเหล่านี้เพื่อมาประกอบอาชีพ มันเป็นความไฝ่รู้ของบุคลนั้นๆเองที่จะพยายามเรียนรู้หาความรู้เพื่อมาประอาชีพของตัวเองมั้ย

ทุกคนที่ประกอบอาชีพมี 2มือ 2เท้า  1 สมองเช่นกัน  เขายังมีความไผ่เรียนรู้ที่จะทำได้

สรุปว่า จากหัวกระทู้ เรียนจบอะไรถึงจะซ่อมจักรได้ เรียนจบอะไรถึงจะทำแบบปักเป็น ผมสรุปว่า ไม่เรียนจบอะไรก็ทำได้ ถ้ามีความไผ่รู้และพยายามครับ  แค่นั้นแหละ

ช่างซ่อมจักรพื้นฐานโดยมากจะมาจากสาขาช่างทั้งนั้นเช่น ช่างยนต์ ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ช่างกล เป็นต้น แต่บางทีก็มาจากบางสาขาเช่น ช่างตัดเย็บเสื้อผ้า เป็นต้น

ส่วนบุคคลทั่วไป ก็มีบ้างถ้าได้คลุกคลีกับจักร หรือ ช่างซ่อมจักร

จากที่เคยเจอน่ะครับ จบจากทุกสาขาเลยครับแต่ส่วนใหญ่จะ ปวชขึ้นครับ ถ้าน้อยกว่านี้ส่วนใหญ่ก็อยู่กับตัด เย็บ ปัก ไม่ค่อยพ้นสักเท่าไร
ส่วนมือสร้างลาย ก็ได้ทุกสาขาเหมือนกัน จะใช้คอมเป็นหรือไม่เป็นก็ทำได้ครับ จะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง ส่วนจะไปได้แค่ไหนก็อยู่กับตัวบุคคล อยู่กับเหตุการที่เจอ
ผมมองว่าทุกคนมีความฉลาดเท่ากัน แต่สิ่งที่แตกต่างคือความคิด และสิ่งที่ทำให้ความคิดแตกต่างก็คือ การเรียน ประสบการณ์
สรุปในแบบของผมน่ะครับ งานแบบนี้ใครก็ทำได้ครับ อาจจะแค่ปรับเปลี่ยนความคิดนิดหน่อย ก็สามารถทำได้แล้วครับ

                                                  (http://upic.me/i/da/ahr0cdovl3azlmlzyw5vb2suy29tl2d1lzavcgljznjvbnqvcgvkawevmjcwmja4x18xntazmjaxmzewmdqymy5qcgc.jpg) (http://upic.me/show/58005471)

อดีตเด็กเรียนซ้ำชั้น อดีตเด็กที่เรียนรู้ได้ช้า แต่เขาเคยกล่าวเอาไว้ว่า
"Imagination is more important than knowledge"
"จินตนาการสำคัญกว่าความรู้"

          เรื่องทั้งหมดที่กล่าวมาคือ สิ่งที่เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญของโลก เขาคนนั้นคือ "อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์"
          "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" เป็นวลีอันอมตะที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ทิ้งเอาไว้ให้แก่โลก ความรู้ทำให้เราฉลาดขึ้น แต่มันจะเป็นสิ่งที่อยู่คงเดิมอย่างนั้น หากเราไม่นำความรู้นั้นไปใส่จินตนาการเพิ่มเติม เปรียบเทียบง่ายๆ ความรู้ก็เหมือนกับปัจจุบัน ขณะที่จินตนาการเปรียบได้กับอนาคต แม้แต่ผู้ที่ได้รับการยกย่องจากนักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกว่าเป็นผู้ทรงความรู้อย่าง ไอน์สไตน์ ยังไม่อยากให้เราจบแค่ความรู้และให้ความสำคัญกับจินตนาการมากกว่า เพราะเป็นสิ่งที่สามารถสร้างสรรค์เรื่องราวใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นบนโลกของเรามานักต่อนักแล้ว

          หนึ่งตัวอย่างที่ดี คือ ก่อนปี ค.ศ. 1903 ความรู้คือมนุษย์ไม่สามารถบินได้ และคงได้หัวเราะกันจนฟันโยกแน่ๆ ถ้าในปีนั้น อยู่ดีๆ มีใครมาบอกว่า "ในวันข้างหน้า มนุษย์จะบินขึ้นไปบนฟ้าได้" แต่พี่น้องตระกูลไรต์ ใช้จินตนาการมองเห็นสิ่งที่ต่างออกไป พวกเขาทำการบินขึ้นฟ้าครั้งแรกในวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ.1903 จนมาถึงวันนี้ทุกคนมีความรู้ใหม่ จากจินตนาการของพี่น้องตระกูลไรต์ว่า "มนุษย์สามารถบินขึ้นไปบนฟ้าได้ด้วยเครื่องบิน"
           เราใช้ความรู้ที่มีสร้างจินตนาการ แล้วใช้จินตนาการสร้างความรู้ใหม่ เพื่อที่จะได้จินตนาการต่อยิ่งสองสิ่งนี้พัฒนาควบคู่กันไปยิ่งดีมากๆ

           จากคำกล่าวข้างต้นของไอสไตน์ จะเป็นจริงหรือไม่ หรือเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหนกัน เพราะเห็นกันพูดอยู่ว่า "ความรู้สำคัญกว่าอื่นใด" คนเราสามารถใช้ความรู้ทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ คนที่มีความรู้ท่านเรียกว่า นักปราชญ์ แต่ทำไมไอสไตน์ถึงได้กล่าวในทางที่ตรงกันข้ามเช่นนั้น มีเหตุผลอื่นประการใดแอบแฝงหรือ หรือว่าเป็นการกล่าวขึ้นมาลอยๆ อย่างไม่มีเหตุผลเฉยๆ
          บางคนอาจมีข้อโต้แย้งว่า ความรู้ที่ทำให้โลกเราเกิดความเปลี่ยนแปลงไปต่างๆนานา เพราะไม่ว่ายุคไหนๆ ก็เกิดความเปลี่ยนแปลง อันเนื่องมาจากการที่คนในสังคมมีความรู้ต่างหาก ไม่ใช่เป็นเพราะการที่คนมีจินตนาการ ที่กล่าวเช่นนั้นก็ถูกแต่ก็ถูกไม่หมด แม้ว่าความรู้จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางต่างๆ ในสังคมแต่ละยุคสมัยจนถึงในยุคสมัยปัจจุบัน เราจะอาศัยแต่เพียงความรู้อย่างเดียวก็ไม่สามารถก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงนี้ได้ หากไม่อาศัยจินตนาการด้วยตามที่ได้กล่าวแล้วว่าจินตนาการและความรู้ต้องไปด้วยกันเสมอ ถึงแม้ว่าจินตนาการและความรู้มีความสำคัญพอๆกัน แต่โดยส่วนลึกแล้ว จินตนาการย่อมมีความสำคัญกว่า เพราะคนเราแม้ว่าตนเองจะมีความรู้ ต่อให้รู้มากขนาดไหนแต่ถ้าหากว่าไม่มีจินตนาการก็ไม่มีทางรู้เลยว่าจะเอาความรู้นั้นไปทำอะไร ไปใช้กับอะไร และเมื่อใช้ทำสิ่งนั้นแล้วผลที่ตามมาจะเป็นเช่นไร ก็ไม่สามารถที่จะใช้ความรู้นั้นๆ ให้เกิดผลได้เลย เข้ากับสำนวนไทยที่ว่า "รู้สิ่งใดไม่สู้รู้วิชา รู้รีกษาตัวรอดเป็นยอดคน"

ช่างซ่อมจักรปัก เเต่ละคนมีที่มาไม่เท่ากัน ถ้าผ่านงานบริษัทเซอร์วิส จักรปักส่วนใหญ่จะมีวุฒิเพราะบริษัทต้องกำหนด
เเต่ในประสบการณ์ของผม กลับมองว่า จะวุฒิอะไรก็เเล้วเเต่ คนที่จะซ่อมจักรได้ดีในระบบ Mechanic ถ้าป็นคนที่คลุกคลีกับการผลิตงานปักด้วยความรู้เเละความเข้าใจในการแก้ปัญหาเครื่องปักจะเเน่นดีมาก เพราะทำงานไปแก้ไปจะมองปัญหาทีละเอียดอ่อนได้มากกว่า เเต่ถ้าระบบElectronic ต้องยกให้คนที่ความรู้เฉพาะด้านเขาไป  ที่เขาได้เรียนมา

 ;) ;)จบอะไรไม่สำคัญครับแต่ช่างสังเกตุเป็นอันดับแรกครับ กล้าที่จะถอด กล้าที่จะรื้อครับ ถ้าไม่มั่นใจถ่ายรูปไว้ก่อน(เมื่อก่อนจดครับ)

นี่เป็นหลักการสำคัญเลย  :067: :067: :067:

ท่นพูดถูก ผมเสริมนิด   ทักษะทางช่างมีบ้าง ช่างสังเกตุ ตา หู จมูก  เปรียบเทียบความเหมือนเเละเเตกต่างให้ออก สังเกตุการทำงานของขื้นส่วนเเละหน้าทีเเต่ละชิ้นส่วนให้ออกให้เป็น การทำงานของจักรโดยรวมที่ส่งผลต่อตัวปักเเละลายปัก ทุกอย่างล้วนเป็นทางตรงที่ส่งผลที่เราจับต้องได้ เเล้วจะมองปัญหาออก  เครื่องจักรต้นกำลังที่หมุนหรือทำงานมาจากจุดต้นกำลังเดียวกันคือ มอเตอร์ Main shaft ปั่นหมุนทุกส่วนให้ขับเคลื่อนอย่างมีระบบ ไม่ว่าจะกี่หัวก็เเล้วเเต่ ทำงานพร้อมกันไปด้วยกัน เเรกๆถ้ายังงก็ละทิ้งการสับสนหลายๆหัว มาศึกษาในหัวเดียวให้รู้ถ่องแท้ แกะดูเปิดดูเลย เมื่อเข้าใจดีเเล้วจะเกิดหัวไหนอาการเดียวกันก็ใช้วิธีเเก้เเบบเดียวกัน ถ้าติดขัดด้วยส่วนควบก็ไล่ทยอยตรวจเช็คตามจุดที่มักจะเกิดปัญหา จนเจอต้นตอของปัญหาเเล้วเเก้ตามอาการ  
การทำงานของเครืองปักที่อยู่อยู่ภายใน  ใต้แผ่นเพลทรูเข็ม ที่เรามองไม่เห็น มองไม่ทัน  เราต้องศึกษาทางทฤษฏีให้เข้าใจก่อนว่า มันทำงานกัน
อย่างไรที่ปัก ออกมาใน LOOPของชิ้นส่วนทั้งหมดที่เกียวข้อง หรือวงจรที่ เสาเข็มพาเข็มแทงลงไป 1 เข็มเเล้วขึ้นกลับที่เดิมจนเกิดด้ายพันกันระหว่างด้ายบนและกระสวย เมือปักต่อไปหลายๆเข็มก็จะเป็นลายปักที่เราต้องการ ตัวเคาะไหม หรือ  PICKER ทำหน้าทีอย่างไรก่อนที่เข็มจะลง มีหน้าทีอะไร ตอนตัดไหม มีหน้าทีอะไรบ้างของชื้นส่วนนี้ เมื่อเรารู้ละเอียด ที่นี้ ก็มาศึกษาระยะหรือตำแหน่งที่มันอยู่ว่ามันจะต้องอยู่ระดับ ระยะขนาดไหน ถ้าตั้งไม่ถูก ชิ้นส่วนของหัวข้างๆ หรือ เข็มข้างๆกัน  "เป็นอาจารย์" ได้ดีมากเอาเป็นต้นเเบบได้เลย อันนี้เป็นส่วนหลัก ของการซ่อมเครื่องปัก ไม่มีอะไรซับซ้อน ถ้าเราเข้าใจทุกชื้นส่วนของเครื่องปัก เราจะเเก้ปัญหาได้เร็วเเละซ่อมเป็นในที่สุด อย่างน้อยก็เเก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ก่อนหรือกว่า จะเรียกช่างใหญ่ หรือช่างที่การคิดค่าบริการเรา 

ผมถอดเครื่องทีไร ประกอบกลับอะไหล่เกินประจำ

(http://)ถ้าอยากถอดเครื่องเเล้วประกอบเเบบเเม่นๆอะไหล่ ชิ้นส่วนน็อตไม่ขาดไม่เกิน เอา PARTLIST มากางไปด้วยเลยครับ ขอเเนะนำ(http://upic.me/i/8b/pho14.jpg) (http://upic.me/show/58023321)

 :030:ผมนี้เศร้าเลยไม่จบอะไรซักอย่าง :030: :060:

ผมไม่เก่งอะไรเลย ดีหน่อยที่ ช่างสังเกต ช่างถาม ก็พอถูไถได้บ้าง  :065:

ผมเองก็ช่างซ่อมจักร brother  เรียนจบ ปวส.ไฟฟ้า ไม่มีความรู้เรื่องจักรมาก่อนเลย ต้องมาฝึกถอดประกอบจนทำให้เคยชิน อาการที่ไม่เคยเจอจะจดบันทึก ตอนนี้ผมใช้เวลาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ 10 ปีพอดีเลยครับ(ตอนนี้ผมอายุ 31)

ผมเรียนจบเปรียญธรรม 5 ประโยคครับ
นอกนั้น หาเพิ่มเติมทีหลัง ด้อยกว่าเขา ต้องพยาม
มากกว่าหลายเท่า  ^-^

"อยู่ที่จังหวะ และโอกาส  ที่คุณจะไขว้คว้า"
ไฟฟ้า อิเล็ก คอม จบ.3 ก็ซ่อมได้ครับ  เพียงแค่คุณเปิดใจที่จะเรียนรู้
บ้างครั้งไม่ต้องเก่ง แต่แก้ปัญหาเป็น
ส่วนผมเรียนจบ ปวส.ไฟฟ้า ได้รับโอกาส ได้ทำงานเป็นช่างซ่อมจักร ทำอยู่ 1 ปีลาออก
ไปทำงานโรงงาน It Support หลังเลิกงานไปเรียนรู้อยู่กับช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านข้างหอพัก
ทำได้เกือบทุกอย่าง ในระดับ Basic ครับ  : Websine Joomla
                                               Domain DDNS
ซ่อมประกอบคอม ติดตั้งกล้องวงจรปิด   ระบบ  wifi hotspot ล้างแอร์  ซ่อมแอร์ ซ่อมเครื่องเสียง
หลักการง่าย อะไหล่เสีย 1 ซื้อ 2 ครับ
ทำได้ในระดับหนึ่ง แต่การตลาดยังไม่ดีพอ  กลับมาอยู่บ้านเปิดร้านเล็กๆครับ
.................................................
ปัจจุบัน หัดเขียนลายปัก และคุมเครื่องจักร ให้ ผบ.ทบ. ครับ

อยู่ที่โอกาสจริงๆเรื่องการที่จะได้เรียนรู้ในการซ่อมช่างจักร หลายๆคนไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับงานด้านนี้เลยกล้าๆกลัวหรือ ไม่หยิบจับเลย ปล่อยให้เป้นหน้าที่ของช่าง "พังเมื่อไรเรียกช่าง' ซึ่งท่านเจ้าของเครื่องเหล่านี้ บางทีเล็กน้อยเเก้ปัญหาไม่ได้ ทำให้เสียโอกาสในผลิตครับ
ผมเข้างานโรงปักวันเเรก โดนจับยัดอยู่แผนกซ่อมบำรุงจักรปัก บารูดันล้วนเลย ลูกพี่พาเเกะล้างหล่อลื่นพร้อมสอนงานอย่างละเอียด ลูกพี่ท่านเเรกทำงานประจำอยู่ เเบงค์ชาติ เวลาว่างท่านมาช่วยงานด้านช่างที่โรงปัก ท่านสอนทุกอย่าง เราได้ลองทำเองเเละเรียนรู้ไปด้วย สื่งไหนไม่รู้อาการใหม่ๆ เก็บไว้ถามหรือรอท่านมาทำให้ดู ทำอยู่นานมากหลายปี เครื่องปักจักรที่โรงปัก รับงานหลายรูปแบบอาการเสียเจอเเทบทุกปัญหายิ่งเจอะเยอะยิ่งพอกพูนประสบการณ์  ต่อมาได้อยู่ในส่วนของการดูเเลการผลิตเต็มๆตามสาขาต่างจังหวัด สมุรปราการ ชลบุรี ระยอง ปราจนบุรี ขอ่นแก่น หนองคาย ลาว บางครั้งเครื่องปักเสียจะรอช่างจากส่วนกลางคงรอไม่ไหว เสียเวลาเครื่องจักรทำงาน ส่งงานไม่ทันลูกค้าด่าตายเเน่ ยิ่งทำงานกับเครื่อสหพัฒน์ (ปักรองเท้า) ส่งงานตกแผนไม่ได้ ตกแผนเมื่อไหร่เขาเคล่มค่าประกันเเรงงานพนักงานเขาทันที ลำบากลูกพี่ที่ดูเเลการบริหารการจัดการอีกทีต้องไปเคลียร์กับลูกค้าอีก(คุณสมคิด ฮั้นเจริญ เจ้าของนัมเบอร์วันการปัก เซ้นทรัลชลบุรี& ศรีราชา) ปัญหาเหล่านี้เรื่องซ่อมและเเก้ไข ปรับเครื่องจักรต้องทำเองเเบบไม่ต้องรอช่างจากส่วนกลาง เเกะเองรื่อเองทุกอย่าง ยกเว้นอาการเสียทาง อิเลคโทรนิค ต้องยกให้ช่าง  KMCC. ประสบการณ์ทำงานอยู่กับนาย นับ20 ปี พอออกมาซื้อจักรเองเปิดปักเอง ก็รื่อใหม่หมด ทำเองหมด ที่อยากให้ดีตามใจเรา เพราะจักรที่ได้มาบางเครื่องยังอยู่ในสภาพที่ต้องรื้ออย่างใหญ่หลวง โชคดีมีลูกพี่คอยช่วยเหลือทุกอย่างเรื่องบารูดัน เพราะเขาเป็นช่างสายตรงจาก KMCC. คงติดสอยห้อยตามกันจนวันตาย  บางอย่างประสบการณ์เราไม่ถึง เขาก็สอนหรือถ่ายทอดวิชาอย่างหมดเปลือก เอามาผสมผสานกันกับประสบการณ์เราที่ได้มาจากการเเก้ปัญหาในระบบการผลิตงานปักที่ยังต้องเเก้ไขได้ไม่หยุดหย่อน เราอยู่ในซุ้มช่าง อรัญ ทูลเกษม จึงหมดปัญหาเรื่องบารูดันทุกรุ่น " ปัญญาได้จากการซ่อมจักร มักเกิดปัญหามาจากงานปัก"