ThaiEMB.com สังคมแห่งมิตรภาพ และการแบ่งปัน

ผมอยากให้การคิดราคาค่าปักเป็นมาตรฐานเดียวกันครับ ซึ่งคำว่ามาตรฐานในที่นี้ก็คือมาตรฐานราคาต่ำสุดครับ(ถ้าใครสามารถปักในราคาสุงกว่านั้นถือว่าดีครับ)
ผมมีเพื่อนคนหนึ่งเขาทำงานในโรงงานการ์เม้นท์เป็นฝ่ายที่นำงานออกไปปักครับ พอดีได้มีโอกาสคุยกันทางเมล์ เขาส่งลายปักมาให้ผมดูเป็นงานผ้าปะ 3 ชิ้น ฝีเข็มเกือบ 8000 ฝีเข็ม เขาถามผมว่าที่เขาส่งปักอยู่ในราคา 4 บาท มันแพงไปมั้ย ผมอึ้งครับเขาปักกันไปได้อย่างไร ผมบอกเขาไปว่าของผมไม่ถึง 1000 เข็ม ปัก 4 บาทก็ยังมี

ผมลองคิดดูเล่นๆ น่ะครับ(แต่บางครั้งก็ได้ใช้งานจริง)
ตัวแปรที่เป็นรูปธรรมที่ผมพอจะนึกออกสำหรับจะนำมาใช้ในการคำนวณเป็นสูตรค่าปักก็คือ
1.จำนวนฝีเข็ม  ยิ่งมากเท่าไหร่ ราคาปักก็ยิ่งสูงตาม เพราะปักนาน
2.จำนวนงาน  ยิ่งมากเท่าไหร่ ราคาปักก็ยิ่งถูกลง เพราะเป็นการทำงานต่อเนื่อง
3.จำนวนสีไหม ยิ่งมากเท่าไหร่ ราคาปักก็ควรสูงตาม เพราะ ต้องเสียเวลาเปลี่ยนไหมมากขึ้น เสียเวลาปักช่วงตัดไหมเพื่อเปลี่ยนเข็ม
4.ค่าบล๊อก น่าจะขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการตีลายและปริมาณงานที่มาปัก

สูตรที่ใช้คิดราคาปักก็คือ
(http://upic.me/i/hd/34s02.jpg) (http://upic.me/show/42152648)

(http://upic.me/i/fe/zh701.jpg) (http://upic.me/show/42152672)
1.ตัวแปรจำนวนสีไหมในสูตรเป็นตัวแปรที่คิดขึ้นในลักษณะค่าของการเสียเวลาไม่ว่าจะเป็นเสียเวลาใส่ไหมร้อยไหม และรวมถึงการตัดเพื่อเปลี่ยนสีไหมของเครื่อง สิ่งเหล่านี้ยิ่งใช้สีไหมปักเยอะก็จะได้งานน้อยเมื่อเทียบในเวลาที่เท่ากันนั่นเอง
2.ค่าบล๊อกจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากปริมาณงานและความยากง่ายในการตีลายแล้วหาค่าเฉลี่ยเพื่อคิดเป็นค่าบล๊อก จากตัวอย่าง ...
ถ้าจำนวนงานน้อยกว่าหรือเท่ากับ 100 ชิ้น จะคิดที่ 10 เปอร์เซ็นต์
ถ้าจำนวนงานน้อยกว่าหรือเท่ากับ 200 ชิ้น จะคิดที่ 9 เปอร์เซ็นต์
ถ้าจำนวนงานน้อยกว่าหรือเท่ากับ 300 ชิ้น จะคิดที่ 8 เปอร์เซ็นต์
ถ้าจำนวนงานน้อยกว่าหรือเท่ากับ 400 ชิ้น จะคิดที่ 7 เปอร์เซ็นต์
ถ้าจำนวนงานน้อยกว่าหรือเท่ากับ 500 ชิ้น จะคิดที่ 6 เปอร์เซ็นต์
ถ้าจำนวนงานน้อยกว่าหรือเท่ากับ 600 ชิ้น จะคิดที่ 5 เปอร์เซ็นต์
ถ้าจำนวนงานมากกว่า 600 ชิ้น จะคิดที่ 4 เปอร์เซ็นต์
            และ
ถ้าจำนวนฝีเข็มน้อยกว่าหรือเท่ากับ 1000 ฝีเข็ม จะคิดที่ 4 เปอร์เซ็นต์
ถ้าจำนวนฝีเข็มน้อยกว่าหรือเท่ากับ 2000 ฝีเข็ม จะคิดที่ 5 เปอร์เซ็นต์
ถ้าจำนวนฝีเข็มน้อยกว่าหรือเท่ากับ 3000 ฝีเข็ม จะคิดที่ 6 เปอร์เซ็นต์
ถ้าจำนวนฝีเข็มน้อยกว่าหรือเท่ากับ 4000 ฝีเข็ม จะคิดที่ 7 เปอร์เซ็นต์
ถ้าจำนวนฝีเข็มน้อยกว่าหรือเท่ากับ 5000 ฝีเข็ม จะคิดที่ 8 เปอร์เซ็นต์
ถ้าจำนวนฝีเข็มน้อยกว่าหรือเท่ากับ 6000 ฝีเข็ม จะคิดที่ 9 เปอร์เซ็นต์
ถ้าจำนวนฝีเข็มมากกว่า 6000 ฝีเข็ม จะคิดที่ 10 เปอร์เซ็นต์
หมายเหตุ:สูตรที่นำมาเสนอนี้เป็นเพียงแนวคิดส่วนตัว และเพื่อนำมาแชร์ความคิดเห็นร่วมกัน ทั้งนี้เพื่อการคิดราคาค่าปักที่ง่ายขึ้นและอาจเป็นมาตรฐานเดียวกันได้ในอนาคต
ตัวเลขต่างๆ ที่อยู่ในสูตรเป็นตัวเลขที่ประมาณขึ้นเองจากความน่าจะเป็น ดังนั้น ถ้าเพื่อนๆ สมาชิกเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ ก็อยากให้มีการร่วมแสดงความคิดเห็นว่าควรจะปรับปรุงในส่วนใดบ้าง
หรือท่านอื่นมีวิธีคิดอื่นที่เป็นมาตรฐานก็อยากให้นำมาแชร์กันครับ ... ไม่อยากให้การทำงานในวงการนี้แข่งกันด้วยการตัดราคาครับ เพราะท้ายสุดวงการงานปักก็จะหมดราคา


[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

1-5000 เข็ม 5 บาท เกินห้าพันข็ม เพิ่มพันเข็มละ 1 บาท สำหรับงาน 100 up  ต่ำกว่า ร้อยชิ้น ราคาเพิ่มขึ้นอีกครับ(ราคาคร่าวๆครับ)

ราคาต่างกัน ตามงานและจำนวนงาน จำนวนหัวเครื่องปัก ท้องที่ที่เราอยู่มีเครื่องกี่เจ้า
จะให้เหมือนกันคงยากค่ะ เพราะแต่ละที่ไม่เหมือนกัน
 ที่รับทำอยู่ งานประจำ จำนวนมาก งานต่อเนื่อง ลายแฟชั่น โลโก้ต่างๆๆ
 ราคาคิดกันทั่วไปของบริเวณนี้
เริ่มที 3-4บาท 0-3000ถึง4000เข็ม
จากนี้คิดเพิ่ม1000ละ1บาท

ลืมไป ถ้าเพิ่มไม่ถึง1000แค่500เข็ม .50สต.ค่ะ

ถ้าจะให้เป็นมาตรฐาน
ราคาจำนวนชิ้นเยอะๆก้เกือบจะเท่ากันทุกที่

ส่วนต่างที่หลากหลายกว่านั้นเห็นจะเป็นปักชุดนักเรียนครับ
เพราะต้องทำบล็อกชื่อใหม่
จะราคาที่ 30 35 หรือ 40 ต่อตัวน่าจะให้ใกล้ๆกันครั
 :) :) :)

การคิดราคาค่าปักผมว่าน่าจะคำนึงเครื่องจักปักด้วยว่าเรามีจำนวนเครื่องมากน้อยแค่ไหน แต่ถ้าจะให้ดี ควรจะมีการกำหนดราคากลาง หรือราคาประเมินมา แล้วคอยนำราคากลาง หรือราคาประเมิน ไปปรับใช้กับ ร้านนั้นๆต่อไป เจ้าของร้านก็จะเป็นคนตัดสินใจในการตีราคาค่าปักเอง ปัจจัยต่างๆก็จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าเจ้าของร้านจะคิดราคาปักอย่างไร เช่น ปักพร้อมเสื้อ ปักอาร์มพร้อมอัดด้วย หรือปักส่งโรงงานอีกที ปักจำนวนมากๆ ปักตัวเดียว ปักเสื้อเพื่อนำไปขานส่ง ฯลฯ ปัจจัยเหล่านี้แหล่ะจะเป็นตัวแปรในการคิดค่าปัก