ThaiEMB.com สังคมแห่งมิตรภาพ และการแบ่งปัน

หมวดหมู่ทั่วไป => ห้องรับแขก => ข้อความที่เริ่มโดย: ponthong ที่ วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557, 15:46:25



หัวข้อ: บอกเล่าสู่กันฟัง
เริ่มหัวข้อโดย: ponthong ที่ วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557, 15:46:25
ท่านใดเคยเจอลูกค้าเอาเปรียบเหมือนผมบ้างครับ
  บางทีผมก็คิดในเเง่ดีว่าเขาอาจจะเดือดร้อนจริงๆ ถึงทำกับเรา เริ่มเลยครับ เมื่อประมาณ 3-4 ปีก่อน ช่วงนั้นมีงานผ้าพันคอเเปะอาร์มสัญลักษณ์สิงห์ ลูกค้าได้งานมา 750,000 ชิ้น ราคาปักอาร์มชิ้นละ 2 บาท ฝีเข็ม 4500 เข็ม ผ้าลูกค้าเอามาเอง รอบเเรกส่งงานให้เข้า30,000 ชิ้น เขายังไม่จ่ายตังค์ขอเอางานไปเช็คก่อนมารับงานรอบต่อไปจะเอามาจ่าย มารับงานรอบสองเอาเงินมาจ่ายรอบเเรก เเต่พอรอบ 3-4-5 บอกว่าขอเวลานิดนึงบัญชีตามเรื่องให้อยู่ พอปักงานมาได้เกือบครึ่ง นํ้าดันมาท่วมซะทุกอย่างไปกับนํ้าท่วมหมดเลย เงินไม่ได้ เเต่ต้องจ่ายค่าเเรงโอที ค่าใหม งานที่ปักๆไว้ก็ไม่มาเอาปล่อยทิ้งโทรทวงก็บอกเดี๋ยวตามให้ ..สรุปงานที่ปักเเล้วลูกค้าไม่มารับเเละไม่จ่ายเงิน ที่บริษัทผมทํางาน 100000 ชิ้น อยู่ที่ร้านเพื่อน 50,000 ชิ้น เขาเอาไปเเล้วไม่จ่าย ประมาณ 100,000ชิ้น เจ้านายผมขายเครื่องปักปิดบริษัทเพราะปัญหาหนี้สินเยอะเยอะเเล้วมาโดนเเบบนี้ซํ้าเข้าอี่ก ตอนนี้ได้เปลี่ยนเจ้าของใหม่เเล้ว เมื่อเร็วๆนี้ลูกค้าคนนั้นยังโทรมาบอกมีเสื้อเฉลิมฉลองในหลวงมาให้ปัก สามารถรับได้กี่หมื่นตัว  ผมบอกไปเลยว่างานเต็ม ไม่มีเครื่องปักให้...
   อี่กคน เอางานมาปักช่วงเเรกก็จ่ายสด พอสักระยะหลัง นัด 6-7 วัน เเต่ก็เลยไปเป็นเดือนจนทุกวันนี้เกินสามเดือน บางครั้งมีงานใหม่มาให้ปักจึงเอาเงินที่ค้างมาจ่าย เเล้วนัดเราว่าพรุ่งนี้ลูกค้าโอนมาตอนบ่าย ให้เข้าไปเอาได้เลย พอเราเข้าไป เงินไม่พอเอาไปเท่านี้ก่อนนะ อ้างโน่นนี่อ้างไปถึงค่านํ้าค่าไฟ เเต่หน้าบ้าน ออกรถใหม่มาสองคัน เเจส เเละ ฟอจูเนอร์ อย่างละคัน ผมโมโหเเต่ทำอะไรไม่ได้เลย เจอคำพูดบ่ายเบี่ยงซํ้าๆเดิมๆ  มีครั้งล่าสุดเขาเอางานมาปักผมกะจะไม่เอางานให้เขาไปถ้าไม่เอาเงินมาจ่าย เเต่ก็ทำใจทําเเบบนั้นไม่ลงครับ ใจอ่อน ล่าสุดเขานัดผมวันที่ 20 ที่จะถึงนี้ ไม่รู้จะได้หรือเปล่า
  
     สรุป ตอนนี้ลูกค้าหนี้ค้างเงินอยู่ 4 คน  1 ค้าง 12,900  2.ค้าง 18,500  3. ค้าง ประมาณ 400,000(ผู้จัดการเก่า)ลาออกไปเเล้วหางานมาปัก 4.คนปัจจุบัน ค้าง 8,000 ตั้งเเต่เดือน 7-2557
ู่     ท่านใดเจออย่างผมบ้าง มาเล่าสู่กันฟังด้วยครับ  ที่พิมพ์มาก็ไม่ได้จะหวังได้เงินส่วนนั้นหรอกครับ อยากเล่าสู่กันฟัง  เพื่อนผมเจอหนังกว่าผมเยอะ 8-9 เเสน เอาทนายไปก็ยังไม่ได้  ขอบคุณครับ :061:
 


หัวข้อ: Re: บอกเล่าสู่กันฟัง
เริ่มหัวข้อโดย: Kriangkraiw ที่ วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557, 16:19:00
ดูจากยีห้อเครื่องที่ใช้แล้ว ไม่น่าจะมีประสบการณ์แค่ 3-4 ปีแน่นอนครับ
คงสิบปีขึ้นไปเป็นอย่างต่ำ

เป็นเรื่องปกติครับ ในสังคมต้องมีทั้งคนดี และคนไม่ดี มีอยู่ทั่วไปทุกวงการครับ
ดีแล้วครับที่มาระบายในเว็บนี้ ไม่ไประบายกับคนที่ทำกับเรา
ผมเชื่อว่าเกือบจะทุกท่านก็เคยเจอมาใกล้เคียงกับท่าน มากบ้าง น้อยบ้าง ตามกรรมเก่าของเราที่มีต่อเค้า (ชาวพุทธถูกสอนมาให้คิดแบบนี้ จะได้สบายใจ)

ได้แต่ให้กำลังใจสู้กันต่อไปนะครับ

เกรียงไกร


หัวข้อ: Re: บอกเล่าสู่กันฟัง
เริ่มหัวข้อโดย: kochai ที่ วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557, 16:23:08
ขอบคุณมากๆเลยครับ คุณponthong ที่นำประสบการณ์จริงๆ มาเล่าสู่กันฟัง โดยเฉพาะเพื่อนสมาชิกในบอร์ดนี้ มันเป็นบทเรียนให้เพื่อนๆสมาชิกเป็นอย่างดีเลยครับ :067: :067: :067:


หัวข้อ: Re: บอกเล่าสู่กันฟัง
เริ่มหัวข้อโดย: pong ที่ วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557, 18:06:25
 ;) คนที่ทำให้เราถึงขั้นล้มละลายได้ คือ คนที่ค้าง 4 แสนครับ ดังนั้นคนนี้ต้องไล่เก็บให้ลดลงมาที่หลักหมื่น ส่วนคนื่นๆไล่เก็บมาให้เหลือหลักพัน

-การทำอาชีพ ถ้าคนเราไม่ซื่อสัตย์ต่อกัน มันจะเป็นงูกินหางกันไปเรื่อยๆ

-ใครที่มาทำการค้ากับเรา และ มีคนเตือนว่าระวังให้ดีนะคนนี้เคยโกงคนอื่นมา เชื่อถือไม่ได้ ขอให้จงระวังและเชื่อเขา เพราะชีวิตผมเคยสัมผัสการเตือนแบบนี้มา2-3 ครั้ง บทสรุปมันจะเป็นอย่างเขาเตือน

-ต่อไปทางร้านต้องมาตรการเรื่องการให้เครดิต ครับ ว่าคนที่มาปักงานกับเราจะให้เครดิตค้างค่าจ่ายไม่เกินเท่าไหร่/เดือน อย่ากลัวไม่ได้งานมากกว่าไม่ได้เงิน เพราะปักงานให้เขาไป เสียทั้งค่าแรง เสียค่าด้าย ค่าไฟ ค่าสึกหรอของเครื่องจักร เราเจ๊งเพราะเราไม่มีงาน กับเราเจ๊งเพราะเขาโกงมันเจ็บปวดต่างกันครับ

-บางทีการทำธระกิจก็ต้องตรงๆและชัดเจนครับ สำหรับผมถ้าใครที่ผมยอมให้ถือว่าเขาโชคดี ถ้าใครที่ผมไม่ยอมผมก็กัดไม่ปล่อย เราต้องมีความชัดเจนให้คนที่คิดโกงเรามองหน้าเราให้ดีก่อนคิดโกง ไม่มีความสามารถในการทำงานไม่มีงานทำแล้วอดตาย ก็ยังดีกว่าถูกโกงจนตัวเองต้องตาย ไม่ว่าคนไทยในระดับไหนมีจิตสำนึกของความซื่อสัตย์ต่อเพื่อนมนุษย์ คนไทยก็ไม่ต้องโลภมากเกินเหตุจนนำมาซึ่งการต้มตุ๋นและหลอกลวงกันครับ และหากคุณศึกษาไปอีกระดับจะรู้ว่า นิสัยชอบการพนัน นิสัยชอบโกหกหลอกลวง นิสัยนินทากาเล นิสัยอิจฉาริษยา สิ่งเหล่ามีมันมีในส่วนมันสมองของมนุษย์ทุกกลุ่ม ทุกชนชั้น จึงมีคำกล่าวว่า "จิตมนุษย์ไซร้ยากแท้หยั่งถึง" ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังเอาครับ


หัวข้อ: Re: บอกเล่าสู่กันฟัง
เริ่มหัวข้อโดย: kipper ที่ วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557, 18:29:07
ของร้านผมนะครับ ถ้าจะสั่งอาร์มต้องมัดจำก่อน50% สั่งเสื้อก็50% เอาเสื้อมาเองไม่มีมัดจำ มารับงานต้องจ่ายเงินก่อน ไม่งั้นร้านไม่จ่ายงานออกจากร้านเด็ดขาด งดรับเช็ค (เด้งดีจัง) เครดิตเฉพาะลูกค้าประจำจริงๆที่ทำงานกันมาหลายปี (เชื่อใจกันได้แล้ว) ไม่งั้นปัญหาตามมาหลายอย่าง ทั้งบอกว่างานเรามีปัญหาบ้างละ จะหาเรื่องไห้เราลดราคาบ้างละ (กรณีเอางานไปก่อนแล้วแต่ยังไม่จ่ายเงิน) เพราะงี้ทางร้านผมเลยตัดปัญหา จ่ายสด งดเชื่อ ไม่จ่ายเงินไม่จ่ายงาน แต่ร้านที่ผมทำงานมันร้านเล็กๆยอดเงินเลยไม่เยอะ  :D แต่ถ้าเจออย่างท่าน ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันครับ  :064:


หัวข้อ: Re: บอกเล่าสู่กันฟัง
เริ่มหัวข้อโดย: kochai ที่ วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557, 18:39:15
ใครที่มาทำการค้ากับเรา และ มีคนเตือนว่าระวังให้ดีนะคนนี้เคยโกงคนอื่นมา เชื่อถือไม่ได้ ขอให้จงระวังและเชื่อเขา เพราะชีวิตผมเคยสัมผัสการเตือนแบบนี้มา2-3 ครั้ง บทสรุปมันจะเป็นอย่างเขาเตือน

ผมชอบคำกล่าวของท่านpong ข้อความข้างบนนี้จริงๆ  :067: :067: :067: :067:
 ใครคิดบวก ก็โชคดีครับ ใครคิดลบ  ก็รับกรรมไป  :056:


หัวข้อ: Re: บอกเล่าสู่กันฟัง
เริ่มหัวข้อโดย: pong ที่ วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557, 19:00:31
 ;)ในสมัยที่ช่วงเสื้อชมพูบูม ผมได้รับการติดต่อให้ปักกระเป๋าตราสัญลักษณ์จากอุบล เขาบอกยอดออเดอร์เป็นล้าน ผมก็บอกโอเคผมตกลงปักให้ แต่ถ้าไม่จ่ายตังผมเอาเรื่อง
ซึ่งคนที่มาติดต่อผมก็เป็นคนรับจ้างผลิตเสื้อที่ผู้ได้ออเดอร์มาเป็นคนจัดหาผ้ามา ผู้รับช่วงจึงบอกว่าถ้าเขาไม่จ่ายก็เอาผ้านีี้ไปเลย ผมก็โอเคเพราะทางบ้านผมทำเสื้อกันอยู่แล้ว
ตอนนั้นที่หมู่บ้านรับปักด้วยกัน 2 เจ้า มีผม และอีกร้านที่เขาปักเป็นเงิน 4 หมื่น

-พอปักงานได้ล็อตแรกเป็นเงิน 7 หมื่น ผมก็ให้น้องเขยขับรถเอาไปส่งที่อุบล และให้ผู้รับเสื้อจ่ายเช็คล่วงหน้ามา และผมก็หยุดปักงานนี้ไว้แค่นี้ก่อน เมื่อถึงวันจ่ายตังค์ไม่มีเงินเข้าบัญชีเช็ค ผมก็ให้น้องเขยขับรถไปเอาผ้าชมพูมาในราคา 7 หมื่นบาท เพื่อมาตัดเสื้อตามลูกค้าสั่งเอาเงินคืน โดยให้เขาเซนรับกันเรียบร้อยว่าเราไม่ใช่เป็นการขโมยผ้าเขามา(ปรเด็นนี้ผมถือคติกำขี้ดีกว่ากำดต...)

-ส่วนอีกเจ้าที่ปักเขาไม่เอาผ้าเพราะเขาไม่มีร้านตัดเสื้อ รออีกเกือบปี เขาก็ให้ตำรวจถือเช็คตามเก็บกับผู้จ่ายเช็คเรียกมาเจรจา เพราะเขาจะฟ้องจริง สรุปว่าเขาก็ได้เงินมา เพราะผู้จ่ายเช็คไม่ใช่คนหัวหมอ

จบสำหรับเรื่องราวในครั้งนี้ :bravo:


หัวข้อ: Re: บอกเล่าสู่กันฟัง
เริ่มหัวข้อโดย: kochai ที่ วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557, 19:12:51
คุณไม่สามารถดูข้อความนี้.กรุณา ลงทะเบียน หรือ เข้าสู่ระบบ
;)ในสมัยที่ช่วงเสื้อชมพูบูม ผมได้รับการติดต่อให้ปักกระเป๋าตราสัญลักษณ์จากอุบล เขาบอกยอดออเดอร์เป็นล้าน ผมก็บอกโอเคผมตกลงปักให้ แต่ถ้าไม่จ่ายตังผมเอาเรื่อง
ซึ่งคนที่มาติดต่อผมก็เป็นคนรับจ้างผลิตเสื้อที่ผู้ได้ออเดอร์มาเป็นคนจัดหาผ้ามา ผู้รับช่วงจึงบอกว่าถ้าเขาไม่จ่ายก็เอาผ้านีี้ไปเลย ผมก็โอเคเพราะทางบ้านผมทำเสื้อกันอยู่แล้ว
ตอนนั้นที่หมู่บ้านรับปักด้วยกัน 2 เจ้า มีผม และอีกร้านที่เขาปักเป็นเงิน 4 หมื่น

-พอปักงานได้ล็อตแรกเป็นเงิน 7 หมื่น ผมก็ให้น้องเขยขับรถเอาไปส่งที่อุบล และให้ผู้รับเสื้อจ่ายเช็คล่วงหน้ามา และผมก็หยุดปักงานนี้ไว้แค่นี้ก่อน เมื่อถึงวันจ่ายตังค์ไม่มีเงินเข้าบัญชีเช็ค ผมก็ให้น้องเขยขับรถไปเอาผ้าชมพูมาในราคา 7 หมื่นบาท เพื่อมาตัดเสื้อตามลูกค้าสั่งเอาเงินคืน โดยให้เขาเซนรับกันเรียบร้อยว่าเราไม่ใช่เป็นการขโมยผ้าเขามา(ปรเด็นนี้ผมถือคติกำขี้ดีกว่ากำดต...)

-ส่วนอีกเจ้าที่ปักเขาไม่เอาผ้าเพราะเขาไม่มีร้านตัดเสื้อ รออีกเกือบปี เขาก็ให้ตำรวจถือเช็คตามเก็บกับผู้จ่ายเช็คเรียกมาเจรจา เพราะเขาจะฟ้องจริง สรุปว่าเขาก็ได้เงินมา เพราะผู้จ่ายเช็คไม่ใช่คนหัวหมอ

จบสำหรับเรื่องราวในครั้งนี้ :bravo:

ขอบคุณมากๆครับ ท่านpong ที่นำประสบการณ์ดีๆ มาเล่าให้เพื่อนๆได้คิดและนำไปใช้ในชีวิตการทำงานครับ  :016:  :067:


หัวข้อ: Re: บอกเล่าสู่กันฟัง
เริ่มหัวข้อโดย: pong ที่ วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557, 19:31:25
 ;) ส่วนประสบการณ์ การแจ้งเตือนเรื่องความไม่น่าเชื่อถือของคนที่จะมาทำงานให้เรา เรื่องเกิดตอนสมัยผมทำงานโรงงานอุตสาหกรรม สมัยนั้นทำงานกับญี่ปุ่น ซึ่งเขาต้องการปรับปรุงประยุกต์เครื่องจักรให้สามารถทำงานในฟังชั่นเพิ่มเติมตามต้องการ ซึ่งญี่ปุ่นเขาไม่ต้องการซื้อเทคโนโลยีมาจากญี่ปุ่นเพราะมันแพงมาก จึงให้หาบริษัทในไทยมาทำหน้าที่ผลิตทำระบบอัตโนมัติที่เรียกว่า ออโตเมชั่น( automation) ตอนนั้นจึงตกลงกับเจ้าหนึ่งที่เสนอราคามา 1.5 ล้าน เขาก็พรีเซนต์ว่า เขาคือ 1 ใน3ของคนไทยที่เก่งระบบนี้ที่สุด

มาวันหนึ่งมีน้องคนหนึ่งเป็นเซล จบมาจากพระนครเหนือ น้องเขาบอกว่า พี่ระวังให้ดีนะคนนี้เคยทำงานให้ลูกค้าไม่สำเร็จ  ผมก็ฟังไว้และมองๆไปได้ พอทำงานกันไปหลายเดือน บทสรุปเขาทำงานไม่สำเร็จจริงๆ และสมัยนั้นจึงทำการสืบสาวราวเรื่องว่าระบบนี้ใครเก่ง ผลสรุปก็คือในเมืองไทยไม่มีบริษัทไหนทำได้ สมัยนั้นมีญี่ปุ่น และ บริษัทจากสิงคโปร์เท่านั่นที่เก่งระบบ Automation

ปี 49 กลับมาอยู่บ้าน ปลายปี 50 มีนักบุญท่านหนึ่งที่ดังระดับจังหวัดมาสั่งทำเสื้อ 1หมื่นตัว ยอดการผลิตล้านกว่าบาท มีผู้ช่วยกันผลิตเสื้อ 3 เจ้า แต่ผมรับงานปักคนเดียว และก็มีคนมาเตือนเชิงเล่นๆว่า ระวังนะมีคนเคยบอกว่าทำงานให้คนนี้แล้วไม่ได้เงิน  บทสรุปเป็นจริง ทำงานกับเจ้านี้เขาต้องตามกันปีกว่าถึงได้เงินครับล้าน โดยที่งานนี้เขาไม่ให้ผมตามเพราะเขารู้ว่าผมแรง เพราะถ้าผมตามนักบุญเจ้านี้ดับแน่ ไม่ได้เกิดหรอก และหลังๆมานักบุญเจ้านี้ก็ไปทำโครงการสร้างพระใหญ่กับจังหวัด งบพันล้าน ซึ่งคนแบบนี้ก็ขาดความเชื่อถือไปจากผมแล้ว

ประสบการณืชีวิตสอนให้เราต้องรู้จักระวังและระแวง มีคำกล่าวหนึ่งเขากล่าวไว้ว่า "ชีวิตก็เหมือนการก่อปราสาททราย เมื่อปราสาทพังเราจะหาวิธีไหนที่จะก่อให้ปราสาททรายนั้นแข็งแรงคงทนกว่าเดิม" :016: :016:


หัวข้อ: Re: บอกเล่าสู่กันฟัง
เริ่มหัวข้อโดย: ponthong ที่ วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557, 22:33:38

ดูจากยีห้อเครื่องที่ใช้แล้ว ไม่น่าจะมีประสบการณ์แค่ 3-4 ปีแน่นอนครับ
คงสิบปีขึ้นไปเป็นอย่างต่ำ


ตอบ คุณเกรียงไกร ครับ เครื่องเเฮบปี้หัวเดียวผ่อนยังไม่หมดครับ ส่วนเรนโบว์พึ่งซื้อต่อเขามาครับ มีทุนน้อยครับ เครื่องผมพึ่งซื้อมายังไม่ถึงสองปีครับช่วงที่บริษัทจะเลิกทำกิจการผมวางเเผนจะออกมาทำเอง ครับ ประสบการณ์เกี่ยวกับงานปัก10 กว่าๆเเต่ก็ไม่ได้รู้มากมายอะไเท่าใหร่ครับ ตลอดเวลาที่ผ่านมาอยู่เเต่ในบริษัทโลกงานปักภายนอกไม่ได้เปิดหูเปิดตาเลยครับ เคยขอออกไปดูงานหรือไปเรียนตีลาย เจ้านายไม่ค่อยจะส่งเสริมครับ อยู่ที่บริษัทใช่จักร ทาจิม่า TMFD ครับโปรเเกรมตีลาย ทาจิม่า DGML v5  
    ผมเริ่มมาจากพนักงานยืนเครื่องปัก ต่อมาเป็นหัวหน้ากะ ต่อมาผู้จัดการเเละหัวหน้าเเผนกลาออก จำเป็นที่ผมต้องฝึกหัดตีลายเเละดูเเลงานปักทั่งหมด เวลาช่างมาซ่อมจักรผมจะไปนั่งดูยืนดูเเล้วก็ถาม บางทีถามมากจนช่างบอกว่าบอกไม่ได้ บอกได้เท่าที่บอกเพราะมันเป็นอาชีพเขา โชคดีเจอช่างใจดีฝากเบอร์ไว้วันหยุดผมจึงได้ไปรับจ็อปหารายได้พิเศษเขาให้ไปช่วยถอดล้างเครื่องปักครับเขาให้วันละ500-ผมจึงได้เรียนรู้มาเล็กๆน้อยๆ ก็จะพอเเก้ไขได้บ้าง   เเต่เงินเดือนก็ไม่ได้มากตามหน้าที่หรอกครับ ผมเริ่มจากค่าเเรง 155 บาท ปี2542 ต่อมาปี2545ก็เริ่มหัดตีลายปัก ได้เพิ่มเป็น 250 รับหน้าที่ดูเเลงานปักทั่งหมดด้วย  เเต่ก่อนผู้จัดการจะเป็นคนตีลายเงินเดือน18,000 หัวหน้าเเผนกปักเงินเดือน12,500น ผมมารับผิดชอบเเทนสองท่านนี้ผมรับค่าเเรงเดือนละ250-จนมาปี2550ผมขอค่าเเรงเป็นเดือนได้รับอยู่ที่9,600 บาทต่อเดือนมาจนถึงปี2555
   พอบริษัทขายกิจการให้ทายทุนคนใหม่ได้เงินชดเชยมา 55,000 ปกติ น่าจะได้มากกว่าเเสนบาท นายจ้างเขาบอกไม่มีเงินมีให้เเค่นี้ ก็เอาเท่านี้หละ ปัจจุบันผมรับค่าเเรงจากเจ้านายใหม่โอเคอยู่ครับ  พอได้ใช้จ่าย ตอนอยู่ที่บริษัทเก่าอยู่อย่างอดทนครับเเน่นอนเงินไม่พอใช้ครับ มีน้อยก็ใช้น้อย ที่สุดความอดทนก็ทำให้ผมได้ในสิ่งที่ผมต้องการนั่นคือวิชาความรู้ครับ เคยคิดน้อยใจอยู่บ้างครับเเต่ก็ต้องทน โดนมาเยอะเเต่ไม่ขอเล่าครับ เพราะยังไงผมก็ถือว่าเจ้านายเก่าผมเป็นผู้มีพระคุณ ปีใหม่นี้ผมจะหากระเช้าไปมอบให้ท่านเเน่นอนผมมีวันนี้ได้เพราะโรงงานท่าน ถ้าผมเอ่ยซื้อบริษัท ไม่เเน่บางท่านอาจจะรู้จักครับ บริษัทเก่าของผม ชื่อ บริษัท นิวเคนต้าจำกัด ครับ ที่เล่าเพราะอยากจะฝากให้คนที่ยังไม่เริ่มทำอะไเอาไปคิดดูครับ เรื่องเล่านี่อาจจะเป็นประโยชน์ กับใครบางคนก็ได้ครับ

ผมชอบข้อความนี้จังครับ

ผมเชื่อว่าเกือบจะทุกท่านก็เคยเจอมาใกล้เคียงกับท่าน มากบ้าง น้อยบ้าง ตามกรรมเก่าของเราที่มีต่อเค้า" (ชาวพุทธถูกสอนมาให้คิดแบบนี้ จะได้สบายใจ)

 ขอเเชร์เรื่องส่วนตัวนะครับ ควรไม่ควรก็ บอกกล่าว ติ เตือน กัน นะครับ  :065:

ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: บอกเล่าสู่กันฟัง
เริ่มหัวข้อโดย: Kriangkraiw ที่ วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2557, 09:59:06
ความอดทน ความมุ่งมั่น ไม่เคยทำร้ายใครครับ

ผมสอนพนักงานของผมเสมอ
วันนี้เราอาจจะยอมเสียอะไรไปบ้างบางอย่าง เพื่ออนาคตเราอาจจะได้รับสิ่งที่ดีกว่า
ชะตาชีวิต เราไม่ได้กำหนด แต่อนาคตเราเป็นคนสร้างครับ

เกรียงไกร


หัวข้อ: Re: บอกเล่าสู่กันฟัง
เริ่มหัวข้อโดย: Ken-ken2007 ที่ วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2557, 12:26:34
ความจริงในมุมลบ ของวงการปักและก็น่าจะทุกๆวงการด้วย อยากให้มือใหม่รวมถึงมือเก่ามองไว้ด้วยไม่ใช่มีแต่ด้านดวกอย่างเดียวครับ :-[